ลด50%จากปก+ค่าจัดส่งลงทะเบียน หมดแล้วหมดเลย

สิเนหามนตราแห่งล้านนา

 


โดย บัณทูร ล่ำซำ
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1(2556)
สำนักพิมพ์ อมรินทรืพริ้นติ้ง
จำนวนหน้า 608หน้า
ISBN 978-616-91583-0-1
ราคาปก 369 บาท ลดเหลือ 185 บาท
น้ำหนัก 850กรัม ค่าส่งลงทะเบียน +50 บาท

เรื่องย่อของ “สิเนหามนตาแห่งลานนา”

จะกล่าวถึง น่าน……ดินแดนในเทือกเขาลำเนาป่าพนาไพรที่ห่างไกล นอกจากชีวิตจะดำเนินไปในวิถีสงบ เยือกเย็นและเป็นสุขแล้วที่นั้น ก็มีเรื่องราวของความรัก ความสิเนหา ที่อิ่มเอิบใจ และการจากพรากที่ช้ำชอกใจจากอดีตกาลนานโพ้นแห่งพูคาลานนา มนตาแห่งสิเนหาชักพาให้กลับมาที่เมืองน่าน…เพื่อระลึกถึงรอยรักที่ยังไม่หักหายมาหลายชาติภพ ให้ได้มาพบรักกันใหม่….

น่าน ในอดีต 600-700 ปี สมัยนั้นชื่อ เมืองวรนคร ปัจจุบันคือ อ.ปัว จ.น่าน มีเจ้าเมืองพญาเก้าเกื่อนแห่งราชวงศ์พูคา มีชายาเทวีโฉมงานนามว่านางพญาแม่ท้าวคำปิน เกิดสงครามทำให้ต้องหนีลงมาทั้งที่ยังตั้งครรภ์ และได้คลอดโอรสออกมา ชื่อ พญาผาสุริยา ได้กลับไปตีเมืองคืนและได้ครองเมืองมายาวนานจนอายุ 60 ปี ได้ลงมาจากบ่อเกลือ และได้พบกับมะไฟ สาวงามที่รำฟ้อนตอนรับพญาผาสุริยา จนเกิดสิเนหา มีบทอัศจรรย์อยู่หลายบท หลังจากนั้นมีเรื่องเศร้าในความเจ้าชู้ของพญาผาสุริยา ที่มีเมียเพิ่มขึ้นถึง 8 คน และเจ็บปวดที่สุดคือ การสั่งฆ่า มะไฟ สาวอันเป็นที่รักด้วยตัวเอง นี้เป็นเรื่องย่อของภาคเงา 

ภาคแจ้ง เป็นเรื่องของหญิงสาวที่ชื่อ รุ้งราตรี ได้ไปเที่ยวจังหวัดน่าน กับเด็กหนุ่ม 2 คนคือ แบร๊ดพิทท์ พัดยศ เป็นเวลา 7 วัน มีเรื่องการท่องเที่ยว สถานที่ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ ความสวยงาม รวมทั้งศิลปะวัฒนธรรม ต่างๆ มีบางช่วงที่สามารถรับรู้และรับทราบถึงความเชื่อมโยงในตัวละครแต่ละภาคนั้นได้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้เป็นแฝงเนื้อหาของการเมืองการปกครอง ความเป็นอยู่การทำมาหากิน การเกษตร รวมถึงการเงินสอดแทรกเข้าไปด้วย 

** เป็นที่น่าสังเกตที่คุณปั้นแต่งเรื่อง นางเอกคือรุ้งราตรีและพญาผาสุริยา ไม่ได้พบเจอกันเลย

เกร็ด

เมื่อผู้ประพันธ์มีอายุครบ 60 ปี แรงบันดาลใจที่ได้สะสมบ่มเพาะมา
นานปี ทำให้เกิดความคิดที่ว่าในโอกาสนี้จะเขียนนวนิยายขึ้นมาสักเรื่องหนึ่ง โดยเนื้อเรื่องจะเกิดที่เมืองน่าน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เป็นจินตนาการล้วนๆของผู้ประพันธ์ มีส่วนที่อิงประวัติศาสตร์จากหนังสือ เมืองน่าน อดีตที่คุณอาจไมเคยรู้อยู่บ้าง รวมทั้งขอ้ มูลอันหลากหลายที่ได้จากแหล่ง อื่น นอกจากนั้น ผู้ประพันธ์ยังเขียนไว้ในคำขอบคุณท้ายเล่มว่า เนื้อหาบางส่วนของนวนิยายเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากจินตนิยายสองเรื่องของคุณหญิงวิมลศิริไพบูลย์ คือเรื่อง พิษสวาท ประพันธ์ในนามปากกา “ทมยันตี” และเรื่องสรวงฟ้า ประพันธ์ในนามปากกา “ลักษณวดี” และยังได้รับอนุญาตให้ใช้คำว่า “นางจีรอมแพง” ซึ่งแปลว่าดรุณีน้อยผู้เป็นที่รัก จากเรื่องสรวงฟ้า

“นวนิยายเรื่องนี้เป็นวิธีการสะท้อนความเป็นตัวตนของผม หลังจากที่ได้สั่งสมและบ่มเพาะมาครบ 60 ปี” และในคำนำเช่นกันที่ผู้ประพันธ์กล่าวถึงชื่อของนวนิยายว่าคิดมาตั้งแต่ไปเยือนน่านในปี พ.ศ. 2552 แล้ว และไม่เคยเปลี่ยนใจ เพราะได้ต้องมนต์เสน่ห์แห่งลานนาอย่างไม่อาจถ่ายถอนได้เพียงแต่มาแปลงภาษาให้ออกเสียงเป็นอารมณ์แห่งลานนาว่า สิเนหามนตา
แห่งลานนา

1 ความคิดเห็น: